ลิลลี่ Lilium เป็นอย่างไร

ลิลลี่เป็นไม้หัวที่ให้ดอกขนาดใหญ่สวยงามมาก ลิลลี่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน ถูกนำเข้าไปในยุโรปและได้รับความนิยมจนแพร่หลายมาถึงทุกวันนี้ โดยแหล่งผลิตลิลลี่ที่มีชื่อเสียงที่สุดอยู่ที่ประเทศฮอลแลนด์ ดอกลิลลี่มีหลายแบบที่มีกลิ่นหอมและไม่มีกลิ่น มีสีให้เลือกมากมายตั้งแต่สีขาวไปจนถึงสีแดงเข้มเกือบม่วง ในปัจจุบันมีลิลลี่ลูกผสมหลากหลายพันธุ์แบ่งได้ดังนี้ Lily Asiatic, Trumpet, Martagon และ Oriental ซึ่งแต่ละพันธุ์จะลักษณะดอกและการดูแลแตกต่างกัน

การแบ่งประเภทของลิลลี่

ตามมาตรฐานของฮอลแลนด์จะแบ่งตามลักษณะดอก และสายพันธุ์ ไม่ได้แบ่งตามความสูง มีลูกค้าหลายท่านสอบถามเข้ามาว่าลิลลี่เป็นแบบต้นสูง หรือต้นเตี้ย ทางร้านคิดว่าน่าจะได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เพราะลิลลี่ถูกผสมข้ามพันธุ์มาเป็นเวลานาน แต่ละพันธุ์จะมีลักษณะต่างกัน ลิลลี่ดอกแตรที่ผสมข้ามพันธุ์อาจมีความสูงมากกว่าปกติก็ได้ และบางครั้งลิลลี่ที่ตามสเป็กจากฮอลแลนด์ระบุว่าความสูงมากกว่า 1 เมตร เมื่อนำมาปลูกในบ้านเราซึ่งอากาศร้อนกว่าที่ฮอลแลนด์ ทำให้ลิลลี่ดอกบานก่อนถึงความสูงที่ระบุไว้ ต้นจึงไม่สูงเหมือนในต่างประเทศ ทางร้านแนะนำให้ลูกค้าอ่านรายละเอียดสินค้าในเว็บไซต์ของเรา ว่าแต่ละพันธุ์มีความสูงประมาณกี่ซม. ดอกขนาดใหญ่มากเท่าไหร่ จะได้รายละเอียดที่ถูกต้องมากที่สุด

ลักษณะหัวลิลลี่ Lily bulbs

หัวลิลลี่จะมีลักษณะเป็นกลีบ เหมือนหัวกระเทียม หัวลิลลี่ของแท้จะมีลักษณะเหมือนในภาพด้านล่าง บางพันธุ์จะมีสีของหัวแตกต่างกันไป เปลือกของลิลลี่แต่ละกลีบยังสามารถนำไปขยายพันธุ์ได้อีกด้วย

หัวลิลลี่


สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับลิลลี่

  • ดินสำหรับปลูกลิลลี่ ควรเป็นดินโปร่งร่วนผสมขุยมะพร้าว เพื่อให้ระบายน้ำได้ดี หรือใช้พีทมอส ผสมเวอมิคูไล ที่มีน้ำหนักเบาเพื่อให้ดินโปร่งรากเดินเร็ว
  • สำหรับการปลูกตามบ้านในประเทศไทย ควรให้แสงร่ม-รำไร ไม่ควรถูกแสงแดดโดยตรง เพราะแสงแดดบ้านเรา มีความร้อนสูง จะทำให้ลินลี่แห้งตาย
  • สำหรับลิลลี่ที่ทางร้านนำมาจำหน่าย อุณหภูมิที่เหมาะสม ประมาณ 20-32 องศาเซลเซียส สามารถปลูกในร่มหรือในห้องได้

วิธีปลูกลิลลี่

  • ใช้กระถาง 4 นิ้วหรือใหญ่กว่าสำหรับลิลลี่ 1 หัว
  • ถ้าต้องการใส่หลายหัวในกระถางเดียวกัน ควรเลือกลิลลี่พันธุ์เดียวกันลงในกระถาง
  • ใส่ดินร่วนผสมขุยมะพร้าว หรือวัสดุปลูกที่ดีขึ้นเช่นพีทมอส ผสมเวอร์มิคูไลท์(ถ้ามี)
  • ขุดหลุมลึกประมาณ 5-7 ซม.โดยประมาณ ให้ลึกพอสำหรับฝังหัวลิลลี่ไว้ใต้ดิน
  • วางหัวลิลลี่ให้รากชี้ลงที่ก้นหลุม แล้วใช้ดินกลบหัวไว้จนมิด
  • เมื่อมีลำต้นงอกแล้วขึ้นมาสูงประมาณ 10 ซม. ให้เสริมดินขึ้นไปบริเวณโคนต้นประมาณ 2-3 ซม. เพราะจะมีรากใหม่งอกออกมาบริเวณนี้
  • ในช่วงแรกควรรดน้ำวันละครั้ง ให้ดินชุ่มทั่วทั้งกระถาง กระตุ้นให้รากใหม่งอกออกมา
  • เมื่อต้นสูงเกิน 10 ซม. มีใบสมบูรณ์ สามารถรดน้ำได้ทุกวัน วันละ 2 ครั้ง
  • ลิลลี่จะงอกลำต้นพร้อมใบขึ้นมา คอยพ่นละอองน้ำรอบๆ ต้นจน เลี้ยงจนต้นสูง 90-120 ซม.
  • เมื่อลิลลี่เริ่มมีดอกขึ้นมาตรงยอด ให้เพิ่มการรดน้ำให้มากขึ้น และเพิ่มแสงสว่างให้กับต้นลิลลี่ เพราะลิลลี่ต้องการน้ำและแสงไปช่วยในการสร้างดอก
  • เมื่อเห็นตาดอกขึ้นมา ให้คอยระวังแมลงเช่น เพลี้ยอ่อน โดยฉีดพ่นสารไล่แมลงสูตรชีวภาพ
  • เมื่อดอกบานแล้วสามารถตัดดอกไปปักแจกัน หรือรอชมดอกทั้งหมดจนดอกโรย
วิธีปลูกลิลลี่ หัวลิลลี่ ดอกลิลลี่มีกลิ่นหอม

วิธีปลูกลิลลี่ หัวลิลลี่ ดอกลิลลี่มีกลิ่นหอม

ต้นลิลลี่

คำแนะนำเพิ่มเติม

  • หากพบว่าหัวลิลลี่ที่ได้รับ มียอดเอียงโค้งไปด้านเดียว แนะนำให้ปลูกลิลลี่ตามปกติ และเมื่อปลูกเสร็จแล้วให้หมุนกระถาง โดยให้ยอดที่เอียงหันไปด้านตรงข้ามกับแสง ยอดของลิลลี่จะโค้งกลับมาตั้งตรงได้เอง ปรากฎการณ์นี้เรียกว่า การเบนเข้าหาแสง (Phototropism)
  • หลังจากลิลลี่ออกดอกแล้ว ควรให้ปุ๋ยเพื่อเลี้ยงใบและหัวต่อไปอีก 2-3 เดือน ให้ปุ๋ยบำรุงหัว จนลำต้นเปลี่ยนเป็นสีเหลือง จึงขุดหัวขึ้นมาทำความสะอาด แล้วบรรจุในถุงพลาสติก นำไปเก็บในตู้เย็น จนต้นเริ่มงอก จึงนำออกมาปลูกใหม่ได้
  • ขณะดอกบาน ควรเก็บเกสรตัวผู้ออก เพื่อป้องกันไม่ให้แมลงมาผสมเกสร ทำให้ดอกโรยเร็วกว่าปกติ และช่วยป้องกันละอองเกสรตัวผู้เปรอะเปื้อนเสื้อผ้า
  • โรคที่มักพบในการปลูกลิลลี่ คือลักษณะที่ใบตรงโคนต้นเป็นสีเหลือง เริ่มร่วงลงเรื่อยๆ ส่วนยอดยังเป็นสีเขียว สาเหตุเกิดจากเชื้อราชื่อ Phytophthora ซึ่งแพร่กระจายอยู่ในดิน อาจเกิดจากการใช้ดินเก่า การป้องกันทำได้โดยการแช่หัวลิลลี่ใน ยากันรา ก่อนปลูก หรือนำยากันราผสมน้ำรดอาทิตย์ละครั้ง
  • ปัญหาดอกลิลลี่มีสีดำและหลุดร่วงในขณะที่เริ่มตูม เรียกว่า flower bud abortion เกิดจากสองสาเหตุหลักๆ คือ 1 การที่ลิลลี่ได้รับน้ำน้อยเกินไป และ 2 มีปริมาณแสงส่องสว่างน้อย ทำให้ดอกลิลลี่ไม่สามารถพัฒนาให้สมบูรณ์ได้ วิธีแก้ไข ควรเพิ่มแสงสว่างให้ลิลลี่แต่ไม่ควรตากแดดโดยตรง และควรรดน้ำทุกวันวันละสองครั้ง

โรคลิลลี่ flower bud abortion

บทความในหน้านี้เป็นบทความที่มีลิขสิทธิ์ ได้รับความคุ้มครองจาก พรบ.ลิขสิทธิ์ 2537 ผู้ใดพบเห็นการคัดลอก ดัดแปลง หรือเผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาต โปรดแจ้งทางร้านได้ที่ LINE รางวัลเป็นส่วนแบ่งจากการฟ้องค่าลิขสิทธิ์